บางคนเริ่มกังวลว่าหากต้องไปใช้บริการต้องเตรียมเอกสารหรือสามารถใช้สิ่งของใดบ้างในการไป จำนำบ้าง เงื่อนไขในการนำสิ่งของไปจำนำเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน แต่หากต้องการข้อเท็จจริงสามารถสอบถามได้ที่โรงรับจำนำใกล้บ้านได้เลย ทั้งนี้ลองมาติดตามกันว่า สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกใช้บริการโรงรับจำนำมีอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้
1.สิ่งของ เครื่องใช้ ของมีค่าที่สามารถนำไปจำนำแลกเงิน เมื่อพูดถึงโรงรับจำนำหลายคนอาจนึกถึงโรงรับ จำนำที่สามารถนำครก สาก ของใช้ในบ้านไปแลกเป็นเงินได้ แต่ในยุคนี้ สิ่งของที่สามารถนำไปจำนำได้ ส่วนใหญ่เป็นสิ่งของที่มีค่า ได้แก่ จำนำเครื่องประดับ เครื่องทอง จำนำเครื่องใช้ไฟฟ้า
2.การชำระดอกเบี้ย ปัจจุบันนี้การชำระดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นข้อเปรียบเทียบก่อนใช้บริการว่า เลือกบริการโรงรับจำนำใดคุ้มค่ากว่า แต่ส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 3 บาทต่อเดือน แต่ทั้งนี้ควรมีการสอบถามก่อนว่าโรงรับจำนำแห่งนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ และต้องมีการชำระดอกเบี้ยอย่างไร
3.หากทรัพย์สินที่นำไปจำนำสูญหายต้องทำอย่างไร เมื่อนำสิ่งของไปจำนำ หากมีเหตุจำเป็นเกิดขึ้น เช่น สิ่งของที่สูญหาย ต้องดำเนินการอย่างไร เป็นข้อควรรู้ก่อนเลือกใช้บริการ
4.โรงรับจำนำไม่ได้เป็นสถานที่สำหรับนำสิ่งของไปแลกเป็นเงินเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้า เครื่องประดับที่หลุดจำนำเป็นแหล่งซื้อหนึ่งที่ทำให้ซื้อต่อในราคาที่ถูกลงกว่าการไปเลือกซื้อของใหม่
การเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการนำสิ่งของไปรับจำนำ ในเบื้องต้นหากเป็นเจ้าของหรือนำของมีค่าของตนเองไปรับจำนำคือ บัตรประชาชน แต่ทั้งนี้หากมีการนำสิ่งของของผู้อื่นมาใช้จำเป็นต้องมีการมอบฉันทะ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ นอกจากนั้นยังมีการพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นหลักฐานด้วย
หลายคนไม่มั่นใจว่าของมีค่าที่ต้องมีอยู่นั้น นำไปฝากที่โรงจำนำได้หรือไม่ สำหรับของมีค่าที่นิยมนำไปจำนำแต่ละประเภทนั้นก็สามารถให้ตั๋วในราคาที่แตกต่างกันออกไป เช่น นำสิ่งของประเภทเครื่องทอง เงิน เพชร นาก ไปจำนำจะได้รับตั๋วในราคาที่สูงกว่าสิ่งของหรือเครื่องใช้ทั่วไป บางแห่งให้ตั๋วได้ไม่เกิน 100,000 บาท ดังนั้นหากต้องการได้รับเงินหลังจากที่นำสิ่งของไปจำนำควรเลือกสิ่งของมีค่า เช่น เครื่องประดับ กล้องถ่ายรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสิ่งของที่มูลค่าไปฝากไว้ที่โรงจำนำรับรองว่าจะได้รับเงินในราคาสูงแน่นอน
เพื่อความสะดวกสบาย ความน่าเชื่อถือ การเลือกโรงรับจำนำที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถพิจารณาประเภทของโรงรับจำนำ เนื่องจากโรงรับจำนำมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
1.โรงรับจำนำเอกชน
2.โรงรับจำนำโดยกรมประชาสงเคราะห์
3.โรงที่ดำเนินการโดยเทศบาล
สำหรับโรงรับจำนำทั้ง 3 ประเภทนี้ ผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้บริการได้ ดอกเบี้ยถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด หากต้องการจ่ายดอกเบี้ยที่น้อยกว่าการเลือกใช้บริการจำนำกับโรงจำนำเป็นทางเลือกหนึ่ง
การใช้บริการโรงรับจำนำ นอกจากต้องวางแผนที่จะเลือกสิ่งของมีค่าใดไปจำนำแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือติดตามข่าวสารว่าช่วงใดที่รัฐบาลมีการกำหนดใช้มาตรการในกำหนดอัตราดอกเบี้ยอย่างไร เพราะจะได้จ่ายดอกเบี้ยในราคาที่ถูกลง ทั้งนี้ไม่ควรขาดการส่งดอกเบี้ยเพราะหลายครั้งที่การขาดส่งทำให้สิ่งของมีค่าที่นำไปฝากหลุดจำนำ ซึ่งหากต้องไปซื้อใหม่ย่อมมีมูลค่าที่สูงกว่า ดังนั้น ควรจ่ายค่าดอกเบี้ยให้ตรงตามเวลาที่กำหนดเพื่อไม่ให้หลุดจำนำ ใครที่กำลังวางแผนเลือกโรงรับจำนำอยู่ สามารถเลือกใช้บริการโรงรับจำนำรัฐบาลหรือเอกชนที่อยู่ใกล้บ้าน เพราะโรงจำนำเป็นแหล่งหมุนเงินที่ให้มากกว่าการฝากสินค้าแลกเงิน แต่การคิดดอกเบี้ยที่ไม่เอาเปรียบผู้ใช้บริการเป็นข้อดีของการใช้บริการโรงรับจำนำ หันมาเลือกใช้บริการโรงรับจำนำแทนการกู้เงินนอกระบบ เพราะมีความปลอดภัยและสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้เป็นกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยและไม่ได้มีสิ่งของที่มีมูลค่ามากนัก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ สิ่งของเหล่านี้ก็สามารถนำมาฝากแลกเงินกับโรงรับจำนำได้
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับซื้อตั๋วจำนำ
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา