เมื่อระบบปฏิบัติการต่างกัน ทำให้โปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ต่างกันด้วยครับ อย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือโปรแกรมสำหรับงานเอกสารทั่วไป ทางฝั่ง Windows จะเลือกใช้ Microsoft Office ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Word, Excel และ PowerPoint ส่วนทางฝั่ง macOS แม้จะมี Microsoft Office for Mac มาให้ใช้งานแล้ว แต่โปรแกรมที่ได้มาพร้อมกับเครื่องเลยจะเป็น Page, Numbers และ Keynote ที่มีหลักการใช้งานที่เหมือนกัน แต่ตัวโปรแกรมเองก็มีความต่างกันด้วยครับ
ซึ่งบางโปรแกรมก็มีลงให้ทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ อย่าง Adobe ทั้งหลาย และก็มีบางโปรแกรมที่หาที่ไหนไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ macOS เท่านั้นอย่าง Final cut สำหรับงานตัดต่อวิดีโอ และ Logic Pro สำหรับงานด้านเสียง
แต่ทางฝั่น Windows เองก็ได้เปรียบเรื่องการเล่นเกมที่มากกว่า เพราะเกมส่วนมากจะทำลงฝั่ง Windows เท่านั้น จะมีไม่กี่เกมที่รองรับทางฝั่ง macOS ด้วย เกมเมอร์ที่กำลังมองหา MacBook เพื่อมาเล่นเกม อาจต้องตรวจสอบเกมที่เราเล่นเสียก่อน หากไม่ลงฝั่ง macOS ก็ไม่สามารถเล่นได้ครับ
ทางด้าน MacBook จะมีขนาดหน้าจอที่ไม่หลากหลายมากนัก แต่ละรุ่นเองก็มีขนาดให้เลือกที่แตกต่างกันออกไป แต่จุดเด่นของทางฝั่งนี้คือจอสีที่เที่ยงตรง เหมาะสำหรับงานด้านกราฟิก ด้านภาพ ด้านวิดีโอ งานที่ไม่อยากรับความเสี่ยงด้านสีที่ไม่ตรง ส่วนเทคโนโลยีจอภาพก็มีทั้ง Liquid Retina และ จอภาพแบ็คไลท์แบบ Mini-LED ให้เลือก ซึ่งแต่ละตัวก็อยู่บน MacBook แตกต่างรุ่นกันครับ
แต่ไม่ใช่ว่าทาง Notebook จะสีเพี้ยนนะครับ โน๊ตบุ๊คบางรุ่นเองก็ออกมาเพื่อการทำงานด้านภาพและสีโดยเฉพาะ ทำให้มีหน้าจอที่ได้สีที่เที่ยงตรงไม่ต่างจากจอของ MacBook เลยครับ ส่วนหน้าจอเองก็มีให้เลือกทั้ง LED และ LCD ให้เลือกครั้ง ทางด้านหน้าจอที่แตกต่างกันก็ส่งผลถึงความคมชัดด้านภาพ และความสมจริงด้านสีด้วยครับ
Notebook ทั่วไปจะมี CPU ให้เลือกอยู่ 2 ค่าย นั่นคือ Intel และ AMD แต่ละแบรนด์เองก็มีรุ่นให้เลือกย่อยมาอีก ที่มันหลากหลายแบบนี้เพราะซีพียูแต่ละตัวมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต่างกันด้วย
ส่วนทาง MacBook เมื่อก่อนก็ใช้ซีพียูของ Intel นี่แหละครับ จนกระทั้งมีซีพียูของตัวเองในชื่อ Apple Silicon อย่างที่หลายคนคุ้นเคยกัน เช่น Apple M1, Apple M1 Pro, Apple M1 Max และออกตัวล่าสุดอย่าง Apple M2 เป็นที่เรียบร้อยแล้วบน MacBook Air รุ่นใหม่
ซึ่งซีพียูของทั้งสองฝั่งเองก็มีการใช้งาน และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป รวมถึงรุ่นที่แบ่งย่อยออกมาก็เพื่อให้มันสอดคล้องกับการใช้งานมากที่สุด จะฝั่งไหน หากเลือกถูกตัว ก็สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนกันครับ
ทางฝั่ง Notebook ทั่วไปจะราคาที่หลากหลายกว่า เริ่มต้นตั้งแต่หลักพันปลายๆ จนถึงหลายแสนขึ้นอยู่กับการใช้งาน ซึ่งเมื่อราคาสูงขึ้น สเปกภายใน สเปกหน้าจอก็จะโหดขึ้นครับ ส่วนทาง MacBook จะมีราคาเริ่มต้นที่หลายหมื่นบาท แต่ราคานี้ก็แลกมากับระบบปฏบัติการของตัวเอง ซีพียูของตัวเอง จึงทำให้ราคาเริ่มต้นสูงกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานด้วยครับ หากใครที่ถนัดใช้ macOS ไปแล้ว ทำงานบนโปรแกรมที่ต้องรันบนระบบปฏิบัติการนี้เท่านั้น ก็จำเป็นต้องเสียเงินหลายหมื่นแลกกับ MacBook ตัวเริ่มต้น แต่คุ้มค่าแน่นอนครับ