Server คืออะไร?
Server คือคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่มากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Laptop ทั่ว ๆ ไป เหมาะสำหรับที่จะนำไปใช้เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ที่อยู่ภายในโครงข่ายเดียวกัน
Server ถูกทำมาให้รองรับ Workload ที่มาก เหมาะสำหรับติดตั้ง Application ได้หลากหลาย และเพิ่มการทำงานให้ง่ายขึ้น และยังช่วยลด Downtime อีกด้วย เนื่องจากถูกออกแบบมาให้ทำงานได้หนักได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน แตกต่างจาก PC หรือ Laptop ทั่ว ๆ ไป
Server ยังมีการทำเป็นลักษณะเครื่องมือสำหรับการจัดการด้วย Remote หมายความว่า เจ้าหน้าที่ IT สามารถตรวจสอบ Usage และเช็คปัญหาได้จากสถานที่อื่น เป็นต้น
แล้วเมื่อไหร่ถึงจะรู้ว่าต้องใช้ Server?
ทำไมต้องใช้ Server?
Server ชนิดไหนที่เหมาะกับคุณ?
Server ที่คุณต้องการขึ้นอยู่กับจำนวน และชนิดของ Application ที่คุณจะใช้งาน คุณต้องรู้ก่อนว่ามีพนักงานใช้งานมากแค่ไหน ตัวอย่างการใช้งาน Application ทั่ว ๆ ไป เช่น Printer, File sharing พวก Word, Excel การใช้งานแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ Server ที่มีความสามารถสูง สามารถเลือกใช้ Server ที่มีราคาถูกได้ ตัวอย่างอีกแบบสำหรับ Application ที่มีการใช้งานหนัก เช่น Database, ที่เก็บรูปภาพขนาดใหญ่ การใช้งานแบบนี้จะใช้การประมวลผลมากกว่า และต้องการ Hard disk ที่เร็ว และความสามารถในการส่งข้อมูลผ่าน Network ก็ต้องเร็วเช่นกัน
วิธีการเลือก Server
Blade Server เหมาะสำหรับธุรกิจที่ค่อนข้างใหญ่ระดับ Enterprise ที่มีการใช้งาน Workload ที่สูง หรือ ธุรกิจทีมีแผนที่จะพัฒนาเป็น Data Center ครับ
ตัวอย่างของ Brand Dell ได้แก่
ตระกูล FC: FC640, FC830
ตระกูล M: M640, M830
ตระกูล C บางตัว: C6320p, C6525
System board – หรือเรียกกันว่า Motherboard เป็น Main Circuit ที่ทุกส่วนของ Server คุณต้องเชื่อมต่อภายใน System board จะมีส่วนสำคัญหลัก ๆ ที่ต้องคำนึงถึงคือ Processor หรือ CPU, Memory, Hard drive controller และช่องสำหรับ Input/Output เช่น Mouse, keyboard บาง Broad จะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ Graphic, SCSI disk controller หรือ Network Interface
Processor – เป็นส่วนที่เปรียบได้เหมือนสมองของ Server ความเร็ว และจำนวนของ Processor มีผลต่อความสามารถของ Server และการใช้งาน Application โดยผู้ผลิตจะมีการพัฒนาอยู่ตลอดทำให้ค่อนข้างที่จะเลือกมาใช้งานยากว่าชนิดไหนจะเหมาะสำหรับ Application ของคุณ สิ่งที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือก Processor มีอยู่ 3 อย่าง หลัก ๆ คือ
Memory – เวลาคุณเปิดไฟล์ หรือเอกสารต่าง ๆ Server จะต้องหาสถานที่ที่เก็บข้อมูลของไฟล์ชั่วคราวในการประมวลผล โดยใช้ Chip พิเศษ เรียกว่า Random-access-memory หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ RAM การทำงานของมันคือ ไฟล์จริงจะอยู่ Save เก็บไว้ใน HDD ก็ต่อเมื่อคุณกด “Save”
RAM – ถูกออกแบบมาให้สามารถเข้าถึงไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว โดยการจำ Location ของไฟล์นั้นว่าถูก Save ไว้ที่ใด หลักการในการเลือก RAM คือ เพิ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะเพิ่มได้ ยิ่งมีมากเท่าไหร่ Server คุณจะสามารถรองรับ Workload ได้มากขึ้น
Storage – หรือระบบ Hard Drive – Hard Drive เปรียบเสมือนโกดังเก็บของของคุณ ยิ่งคุณมี Hard disk ที่มีพื้นที่มาก แปลว่าคุณสามารถเก็บข้อมูลของคุณได้มาก ฉะนั้นการเลือกใช้ Storage และ Hard drive ให้คำนึงถึงความจุที่คุณต้องการจะใช้ครับ
Internal Storage – Server จะมาพร้อมกับ Storage ที่เรียกว่า Internal Storage เพื่อให้สามารถใช้งาน Server ได้ทันที แต่ถ้าคุณต้องการที่จะใช้พื้นที่เพิ่ม คุณสามารถหา Storage หรือ Hard Drive มาเติมได้
RAID – Redundant Array of Independent Disks เป็นกระบวนการที่นำเอา Hard Drive จำนวน 2 ตัวขึ้นไปมาทำงานร่วมกันเปรียบเสมือนเป็น Hard Drive ตัวเดียวที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และทำเพื่อป้องกันโอกาสที่จะสูญเสียข้อมูล โดยมีการทำหลากหลายรูปแบบ เช่น RAID 0, RAID 1, RAID 5, RAID 10 ซึ่งการทำ RAID แต่ละแบบก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการจะนำไปใช้อย่างไร วิธีการเลือกซื้อ Storage ก็ควรคำนึงถึง RAID ที่จะทำด้วยเช่นกันครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะได้ไอเดียคร่าว ๆ ในการเลือกซื้อ Server กันมั้ยครับ ถ้าใครมีคำถามสามารถ Comment เพิ่มเติมได้นะครับ หากต้องการให้เขียนเรื่องใด สามารถ Request เข้ามาได้นะครับ
ทางผู้เขียนพร้อมแชร์ไอเดียดี ๆ ให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันนะครับ
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับซื้อ Server
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา