Apple Watch เป็นหนึ่งในนาฬิกาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ใช้ iPhone และเมื่อเดือนกันยายน ปีค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา Apple ก็ได้เปิดตัว Apple Watch ซีรีส์ 6 ซึ่งถือเป็นรุ่นล่าสุดออกมาให้เราได้เชยชมกัน แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วซีรีส์นี้จะมีความเหมือนหรือแตกต่างจากซีรีส์ที่ผ่านมาอย่างไร ทางแบรนด์ได้พัฒนาเทคโนโลยีในส่วนใดเพิ่มเติมบ้าง และรุ่นไหนจะคุ้มค่าแก่การลงทุนมากที่สุด
เพื่อให้ทุกคนได้คลายข้อสงสัย พร้อมทั้งช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือก Apple Watch พร้อมทั้งพาทุกคนไปดู 10 อันดับ Apple Watch รุ่นยอดนิยมและรุ่นใหม่ล่าสุดกัน ซึ่งเราจะได้รู้กันแล้วค่ะว่า การใช้ Apple Watch นั้นจะสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราได้จริงอย่างที่ผู้ใช้จริงหลายคนกล่าวหรือไม่ ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ !
Apple Watch คือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) ที่สามารถสั่งการผ่านการเชื่อมต่อกับ iPhone ซึ่งได้มีการเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2015 และได้รับความนิยมจากสาวก Apple เรื่อยมา โดยคุณสามารถใช้ Apple Watch ในการจัดการตารางงานหรือกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวันได้ รวมถึงการรับการแจ้งเตือน (Notifications) ฟังเพลง และช่วยในการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของตนเองได้อีกด้วย
ดังนั้น การใช้ Apple Watch จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบที่การหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็กข้อมูลต่าง ๆ อาจจะไม่สะดวกเท่ากับการตรวจเช็กผ่าน Apple Watch และหากผู้ใช้ iPhone คนไหนต้องการไอเทมเสริมดี ๆ แบบนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน Apple Watch คือ ไอเทมที่ทั้งมีประโยชน์และความทันสมัยที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ ค่ะ
Apple Watch แต่ละโมเดลจะมีการพัฒนาให้มีจุดที่แตกต่างกันอยู่เสมอ คำถาม คือ แต่ละโมเดลจะมีข้อดีและจุดเด่นอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วค่ะว่า ทางแบรนด์เพิ่งเปิดตัว Apple Watch ซีรีส์ 6 ซึ่งถือเป็นซีรีส์ล่าสุดออกมา ดังนั้น เราจึงอยากจะเปรียบเทียบซีรีส์ดังกล่าวกับซีรีส์ก่อนหน้า เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างแต่ละซีรีส์ได้ดีที่สุด
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับซื้อ Apple Watch
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา